สงคราม AI Chatbot ขยายวงไปยัง Facebook

Yann LeCun หนึ่งในบิดาแห่ง Deep Learning ออกมาโจมตี ChatGPT ว่าไม่ใช่นวัตกรรม และไม่ใช่การปฏิวัติวงการ AI ใดๆ

เครดิตภาพและเนื้อหาบางส่วน มาจาก 

หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศซื้อหุ้น 49% ของบริษัท OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT แชทบอทที่สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยขณะนี้มองกันลึกไปถึงว่า ChatGPT จะทำให้คนตกงานจำนวนมาก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Google ต้องกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยระดับ “สีแดง” ทั่วทั้งองค์กร ลดพนักงาน 1.2 หมื่นคน แล้วดึงอดีตผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Larry Page และ Sergey Brin ให้กลับมาวางแผนด้านเทคโนโลยีอีกครั้ง หลังจากวางมือไปตั้งแต่ปี 2019

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มกราคมตามเวลาประเทศไทย ยานน์ เลอเคิน (Yann LeCun) หนึ่งในสามที่ถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่ง Deep Learning ซึ่งเป็นศักราชใหม่ของวงการ AI ได้ออกมาอธิบายกลไก ChatGPT ว่า ไม่มีอะไรใหม่ เป็นแค่การยำรวมเทคโนโลยีคนอื่นคิดค้นแล้วอุทิศให้กับสังคม มาทำเป็นระบบบริการขนาดใหญ่ที่เขายอมรับว่าทำได้ดีมาก แต่ยังห่างไกลจากคำว่านวัตกรรม หรือคำว่าการปฏิวัติวงการเทคโนโลยี

ChatGPT is 'not particularly innovative,' and 'nothing revolutionary' ... "It's just that, you know, it's well put together, it's nicely done." ยานน์ เลอเคินกล่าว

ทั้งนี้ เขาให้เหตุผลว่า GPT คำว่า T ซึ่งหมายถึง Transformer เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่คิดค้นโดย Google โดยต่อยอดจากงานวิจัยของ Yoshua Bengio เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ส่วนภาษา PyTorch ที่ใช้ในการพัฒนา GPT-3 ก็มาจาก Facebook ซึ่งคิดค้นแล้วอุทิศให้กับ Linux Foundation ไปแล้ว อัลกอริทึมต่างๆ ก็หยิบใช้มาจากคนอื่น ส่วนกลไกการ “เรียนรู้จากฟีดแบ็คของคน” ก็เป็นแค่ reinforcement learning ปกติ ซึ่งก็คิดค้นกันมานานแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีอะไรใหม่ เป็นแค่การรวมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมต่างหาก คำวิจารณ์กึ่งโจมตีของยานน์ เลอเคิน ทำให้เกิดเสียงไม่พอใจในหมู่ผู้ศรัทธาเขาจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งผู้สนับสนุน Microsoft และ OpenAI

อนึ่ง ยานน์ เลอเคิน เป็นหนึ่งในสาม ที่ถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่ง AI ยุคใหม่ ผู้ร่วมคิดค้น Deep Learning เคยได้รับรางวัล Turing Award ซึ่งเทียบเท่ารางวัลโนเบลด้านไอที โดยปัจจุบัน ทำงานให้กับ Meta (หรือ Facebook) ในเรื่อง AI เพื่อสร้างเท็กซ์ (generative text), สร้างและตกแต่งรูปภาพ (generative art) เพื่อสนับสนุนให้ B2B หรือยูสเซอร์ทั่วไปที่ไม่เก่งเรื่องภาพหรือการคิดคำพูดโฆษณา สามารถขายสินค้าออนไลน์ได้ โดยเขามองว่าจะเป็นก้าวกระโดดของ Social Marketing ครั้งใหญ่

ด้วยเหตุนี้ ผู้สนับสนุน Microsoft และ OpenAI จึงมองว่า นี่คือการเปิดศึกอีกด้านของ Microsoft เพราะ ChatGPT อาจจะไปกระทบรายได้โฆษณาของ Facebook/Instagram ด้วยเช่นกัน และมองว่า ยานน์ เลอเคิน ไม่ใช่นักวิชาการสายกลาง แต่เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook ส่วนหนึ่งของการแข่งขัน จึงอาจมีอคติในฐานะผู้ท้าชิง ซึ่งไม่ยอมแพ้ในเรื่อง AI เหมือนกัน ขณะที่คอมมูนิตี้ผู้สนับสนุน OpenAI ส่วนหนึ่ง เริ่มมองว่าบริษัท OpenAI ไม่ได้ open source และ Non-Profit Organization เหมือนก่อน และกลายเป็นบริษัทไมโครซอฟท์ไปแล้ว ทำให้ชุมชนนี้ บางส่วนเริ่มตั้งคำถามทิศทางของบริษัทนี้ และเริ่มลดบทบาทในการสนับสนุนแบบเต็มตัวเหมือนสมัยก่อน