ข่าวดี ! ชาวโลกกำลังจะมีพลังงานสะอาดชนิดใหม่ ที่มีไม่จำกัด !!

ในจักรวาลมีแค่ดวงอาทิตย์และบนโลกเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ใช ้

นักวิทย์อเมริกาประกาศความสำเร็จ หลังวิจัยคิดค้นมานานกว่า 60 ปี …นี่คือ “ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญของศตวรรษนี้” และ “พลังงานสะอาด” ที่เหลือเฟือสำหรับธุรกิจและชาวโลก

เครดิต — CNET https://www.cnet.com/science/fusion-energy-breakthrough-major-milestone-achieved-in-us-experiment/

ข่าวน่าตื่นเต้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เมื่อ นักวิทยาศาสตร์จาก Lawrence Livermore National Laboratory ประกาศว่า พวกเขาประสบความสำเร็จในการทดลองฟิวชันแบบควบคุมเป็นครั้งแรก ความฝันกลายเป็นเรื่องปฏิบัติได้จริง..หลังจากมีการค้นคว้าวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชันนี้มานานกว่า 60 ปี

“เราได้ดำเนินการขั้นแรกเบื้องต้นเพื่อไปสู่แหล่งพลังงานสะอาด ที่สามารถปฏิวัติโลกได้” จิล เฮอร์บี ผู้บริหารของ National Nuclear Security Administration

“สามารถผลิตปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่มีการควบคุม ซึ่งปล่อยพลังงานออกมามากกว่าที่ใช้ไป”

โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 01:03 น. ตามเวลาแปซิฟิกของอเมริกา เครื่องยิงเลเซอร์ 192 ตัว ได้ยิงพลังงานเลเซอร์ มาบรรจบกันบนกระบอกทองคำขนาดเล็กที่บรรจุเม็ดเชื้อเพลิงชนิดไอโซโทปไฮโดรเจน ได้แก่ ดิวเทอเรียม และทริเทียม เพียงชั่วพริบตา กระบอกทองคำได้สลายกลายเป็นไอ ปลดปล่อยรังสีเอกซ์ที่บีบอัดเม็ดเชื้อเพลิงภายใน จนถึงจุดที่นิวเคลียสของไอโซโทปไฮโดเจนหลอมรวมกัน (ฟิวชัน) แล้วปลดปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาลออกมา

พลังงานของเลเซอร์ทำให้เม็ดเชื้อเพลิงร้อนขึ้นถึง 150 ล้านองศาเซลเซียส และบีบอัดด้วยแรงดันมากกว่าสองเท่าของใจกลางดวงอาทิตย์ เมื่อคำนวณแล้ว พลังงานเลเซอร์ที่ยิงเข้าไป เทียบกับพลังงานปลดปล่อยที่ออก พบว่าได้พลังงานสุทธิที่เหลือมากกว่า จุดประกายความหวังระบบนิวเคลียร์ฟิวชันสำหรับประชาชนและธุรกิจ

คำถามก็คือ ได้พลังงานเท่าไร?

ภาพห้องทดลอง นิวเคลียร์ฟิวชัน — เครดิตนิตยสาร Forbes

หลังจากวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เวลาเก็บข้อมูล และสรุปผลการทดลองนานกว่าอาทิตย์ พบว่า การทดลองครั้งประวัติศาสตร์นี้ ใช้พลังงาน 2.05 เมกะจูลสำหรับเครื่องยิงเลเซอร์ เพื่อสร้างปฏิกิริยาฟิวชันขนาด 3.15 เมกะจูล(จากการยิงเลเซอร์แค่ครั้งเดียว) หรือได้พลังงานเอาต์พุตมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับพลังงานเลเซอร์ที่ยิงเข้าไป

ที่น่าตื่นเต้นคือ มีเพียง 4% ของเชื้อเพลิงดิวทีเรียม-ทริเทียมที่ถูกเผาในปฏิกิริยาฟิวชัน แปลว่า มีโอกาสที่จะได้พลังงานมากกว่านี้อย่างมหาศาล !

หมายเหตุ — กระบอกทองคำนี้ ใช้เวลาผลิตประมาณสองสัปดาห์ ส่วนเม็ดเชื้อเพลิงที่เคลือบเพชรใช้เวลาผลิตประมาณเจ็ดเดือน ซึ่งหากงานวิจัยนี้เข้าสู่ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมได้แล้ว จะลดเวลาการผลิตได้ลงอีกมากและเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจและอุตสาหกรรม

*********

ติดตามบทความ AI.Neuro.Pal ได้ที่

Facebook: www.facebook.com/ai.neuro.pal

Twitter: https://twitter.com/AiNuero

Blogger: https://aineuro9.blogspot.com

Medium: https://medium.com/@AiNeuroPal